![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgDS2jyXXZkped3YXIORrB9eIO5f_9lri4c28ySByNz5Zq3uuEdAp9M0Kbo1wnQb0CcPabHGxCgKqd0ap0B2gOzYFYH7u4aFAoyiYhoMKGxTQSKg4naxEY8BqkEoTd4gKDR-ozdszddGkE/s400/article_589abb2e15f02003e1737072_cover.jpg)
ทุกวันนี้ผลจากการเผยแพร่ความรู้เรื่อง การปล่อยนํ้าทิ้งที่มีไขมันปนเปื้อน ก่อปัญหาไขมันอุดตันในท่อ ระบาย ทําให้ผู้ที่ใส่ใจรักษาสิ่งแวดล้อม มีการใช้ถังดักไขมันสําเร็จรูปกันอย่างแพร่หลาย เพื่อความสะดวก และมีส่วนช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม แต่ถ้าเลือกใช้ไม่ถูกต้อง ถังดักไขมันก็จะไร้ประโยชน์ ไม่ทําหน้าที่ดักไขมันให้คุณ
ไขมันในนํ้าทิ้งจากบ้านพักอาศัย ส่วนใหญ่เกิดจากการล้างจาน และจากการทําอาหาร แต่จากไลฟ์สไตล์ คนในเมืองอย่างเรา ก็แค่ล้างจานพอ ไม่ทํากับข้าวทานเอง แล้วเราเคยรู้หรือไม่ว่า การล้างจานของเราใน แต่ละครั้งนั้น ใช้นํ้าในการล้างเท่าไหร่
ในการล้างจาน โดยการเปิดนํ้าทิ้งไว้ตลอด คือเปิดนํ้าไปล้างไป ใช้เวลาในการล้างประมาณ 1-5 นาที (ล้างจาน3-5ใบ) โดยในการเปิดนํ้าทิ้งไว้จะใช้นํ้า 1-4 ลิตร/นาที (ขึ้นอยู่ว่าเปิดนํ้าเบาหรือแรง) ถ้าใช้เวลาล้าง ครั้งละ5 นาที เราจะใช้นํ้า5-20ลิตร และกลายเป็นนํ้าเสียประมาณ 4.5-18 ลิตร (คิดนํ้าเสีย90%ของนํ้าใช้)
ทีนี้ถ้าเราเลือกใช้ถังดักไขมันแบบติดใต้ซิงค์ขนาด 15 ลิตร นั่นหมายความว่า เราจะเก็บนํ้าเสียไว้ในถังดัก ไขมันได้15 ลิตร อีก3ลิตร จะทิ้งไปในท่อระบายโดยไม่ได้มีเวลาพักให้ไขมันแยกชั้นแล้วเราตักไขมันไปทิ้ง ลองคิดเล่นๆว่าแค่เราล้างจานวันละ3 ครั้ง เราจะทิ้งนํ้าเสียที่มีไขมันไปอย่างน้อย 9ลิตร/วัน ทุกวันๆ
แล้วมีปัญหาอะไร เมื่อนํ้าปนไขมันไหลไปตามท่อ ก็เหมือนไขมันในเลือดเรานั่นแหละ ถ้าเลือดมีไขมันเยอะ ก็จะค่อยๆไปเกาะผนังหลอดเลือดกลายเป็นไขมันอุดตันในเส้นเลือด ไขมันในนํ้าทิ้งก็เช่นเดียวกันจะค่อยๆ ไปเกาะผนังท่อและหนาขึ้นๆ จนท่อตัน เรามารู้อีกทีก็ท่อตันแล้ว
คงไม่สงสัยกันแล้วนะว่า ทําไมใช้ถังดักไขมันแล้วท่อยังตัน 😄
ผู้เขียน:
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น