ว่าด้วยทฤษฏี "มั๊ง" และการถอดรหัสปัญหาสู่การเรียนรู้

ในการทำงาน ใครบ้างไม่เคยมีปัญหา ยกมือขึ้น

ถ้าคุณคือคนหนึ่งที่ยกมือ ........ คุณกำลังโกหก หรือไม่คุณก็ไม่เคยทำงาน......
ใครก็รู้ว่า ปัญหาในงานนั้น เป็นเรื่องธรรมดา
แต่ที่มันไม่ธรรมดา ก็คือการเข้าถึงปัญหา การวิเคราะห์รากเหง๊าของปัญหา และการแก้ปัญหา ต่างหากเล่าที่มันไม่เคยรู้สึกธรรมดาซักที ทำไมมันยากแสนยากอย่างนี้นะ


หลายๆท่าน คงเคยทำมาบ้างไม่มากก็น้อย ในเวลาที่ต้องหาสาเหตุของปัญหา โดยใช้ทฤษฎี "มั๊ง" หมายถึงว่าเมื่อถึงคราวต้องตัดสินใจอะไรซักอย่าง แต่ไม่สามารถหาสาเหตุที่แท้จริงของมันได้ ก็มักจะทำโดยให้พอผ่านๆไป จึงต้องหยิบยกทฤษฎี "มั๊ง" ขึ้นมาใช้ โดยอาศัยความ "เก๋า" เป็นตัวผลักดันให้คนอื่นเห็นด้วยและทำตาม

จะดีกว่ามั๊ยถ้าทุกครั้งที่เจอปัญหา ให้เรามองว่านี้คือโอกาสของการเรียนรู้ แล้วแทนที่เราจะมองเข้าไปเห็นแต่ปัญหา ซักไซร้ไร่เรียงหาคนที่เป็นต้นเหตุของปัญหา  จมกองอยู่กับการไล่ล่าหาอดีต จนหมดพลัง  แล้วหันมาหาทางออกกันจะดีกว่า

คนเราส่วนใหญ่มักเอาตัวไปจมกับปัญหานานเกินไป จนไม่เห็นทางออก สุดท้ายก็ปล่อยให้โอกาสของการเรียนรู้ผ่านไป


การมองปัญหาว่าเป็นหัวข้อการเรียนรู้ จะทำให้จิตใจเรากระตือรือร้น ไม่จมอยู่กับความมืดมัว เกิดการเพ่งโทษซึ่งกันและกัน จะทำให้สามารถสร้างความร่วมมือ  การต่อยอดความคิดซึ่งกันและกัน จนสุดท้ายนำไปสู่การเห็นทางออกร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ

ความคิดเห็น