ทุกวันนี้มองไปทางใหนก็มีแต่คนพูดกันถึงเรื่อง CHANGE หรือเปลี่ยน ไม่ว่าจะทางสื่อใหน ไม่เว้นแม้กระทั่งภายในบริษัทเราเอง มันอะไรกันมากมาย มันสำคัญขนาดใหนกันเชียว แต่แบบเดิมๆไม่ได้หรือไง แค่ทำวันนี้ให้ดีที่สุดไม่พอหรืออย่างไร
ไม่ว่าจะมีเสียงในหัวเราอย่างไรก็ตาม วันนี้ผู้เขียนมีTrick ดีๆมาฝาก สำหรับผู้ที่กำลังลังเล หรือกำลังคิดอย่างจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง แต่ก็เจอแต่สภาพแวดล้อมเดิมๆ แล้วมันจะเปลี่ยนได้อย่างไร
CHOICE CHANCE CRISIS
3 เหตุผลที่จะทำให้คุณต้องเปลี่ยนแปลง
1. CHOICE คือการเปลี่ยนแปลงที่คุณเลือกที่จะทำ ถ้าคุณมีเป้าหมายที่ชัดเจน และคุณพบว่าหากคุณไม่เปลี่ยน คุณอาจไม่ได้สิ่งที่คุณต้องการ คุณจะเลือกหา
แม้ดูเหมือนจะเป็นการเปลี่ยนแปลงที่สมควรทำที่สุด แต่เชื่อมั๊ยมีคนจำนวนไม่มากนักที่จะเลือกเปลี่ยนแปลงเพราะเหตุผลนี้ สาเหตุหลักๆก็คือ พวกเขาเหล่านั้น รู้สึกอึดอัดถ้าหากจะต้องออกจากโซนปลอดภัย หรือที่เรียกกันทับศัพท์ว่า SAFE ZONE
SAFE ZONE ก็คือที่ที่อยู่แล้วสบาย หรือที่ๆเราคุ้นเคย สภาพเดิมๆ นั่นเอง มีคนน้อยคนนักที่กล้าที่จะออกจาก SAFE ZONE ซึ่งมันก็ทำให้พวกเขาเหล่านั้นมีชีวิตอยู่เหมือนกบต้ม ที่ยังรู้สึกสบายเมื่ออยู่ในหม้อน้ำที่วางบนเตาไฟ แม้ว่าน้ำจะเริ่มร้อนขึ้นกบก็ยังรู้สึกว่าอุ่นสบายดี ไม่ได้เฉลียวใจและตัดสินใจกระโดดก่อนที่น้ำจะเดือด หากใครเริ่มเห็นChoice แต่ไม่ยอมเลือก ระวังจะเป็นเหมือนกบตัวนั้น
2. CHANCE คือการเปลี่ยนแปลงที่คุณต้องรอคอย ไม่มีใครรู้ว่าโอกาสดีๆเหล่านั้นจะผ่านเข้ามาในชีวิตคุณอีกเมื่อไหร่ หากคุณไม่เปลี่ยนแปลงคุณจะไม่สามารถคว้าโอกาสนั้นให้กลายเป็นโอกาสของคุณได้ และมันก็จะลอยผ่านคุณไปเหมือนมันไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
คุณอาจเคยละทิ้งโอกาสดีๆไปแล้วหลายครั้ง ด้วยเหตุผลนานับประการมาแล้วใช่มั๊ย
หลายคนไม่กล้าคว้าโอกาสเพราะความกลัว เช่น กลัวว่าจะล้มเหลว กลัวทำได้ไม่ดีพอ กลัวคนอื่นตำหนิ อยากจะบอกว่าถ้าต้องใช้ความกลัวมาเป็นข้ออ้างสำหรับการเปลี่ยนแปลง ก็จงกลัวที่จะไม่ได้ทำ ซะยังจะดีกว่า
นายโทมัส เอดิสัน ผู้คิดค้นหลอดไฟเป็นคนแรกของโลก ได้กล่าวถ้อยคำที่สะท้านไปทั่วโลกคือ
" คนส่วนใหญ่ พลาดโอกาสดีๆในชีวิตไป เพราะเหตุว่าโอกาสดีๆส่วนมักปรากฏให้เห็นในรูปของงาน "
คนคิดกันว่าโอกาสดีๆจะเข้ามาแบบโรยด้วยกลีบกุหลาบ หอมหวนและเต็มไปด้วยคำชื่นชม และมองโอกาสที่แอบซ่อนมาในรูปของงาน ว่ามันคือภาระ มันคือปัญหา ที่ทำให้คุณต้องเหน็ดเหนื่อย ต่อสู้ เต็มไปด้วยแรงกดดัน แล้วคนเหล่านั้น ก็ได้ปล่อยให้โอกาสนั้นหลุดลอยไป
หลายคนเรียกร้องหาโอกาส และโทษชะตาว่าตนเองไม่เคยได้รับโอกาสดีๆอะไรเลย โดยหารู้ว่า ที่ผ่านมาหลายปี เขาเหล่านั้นได้ปฏิเสธโอกาสไปจนหมดสิ้นแล้วโดยไม่รู้ตัว และเมื่อเวลาผ่านไป อายุที่มากขึ้น โลกที่เปลี่ยนไป ประตูแห่งโอกาสในโลกของงาน ก็จะปิดประตูอย่างสมบูรณ์
3. CRISIS วิกฤติ คือเหตุผลสุดท้ายที่คุณไม่มีทางเลือก สถานะการณ์จะเป็นผู้เลือกว่าใครคือคนที่จะมีโอกาสรอด ผู้ที่ยอมเปลี่ยนแปลงเมื่อวิกฤติมาถึง พวกเขาจะไม่สามารถปรับตัวได้ และจำเป็นต้องออกจากวงจรไปอย่างไม่มีทางเลือก
การเปลี่ยนแปลงเมื่อวิกฤติคืบคลานเข้ามา คือการเปลี่ยนแปลงเพื่อการอยู่รอด คุณต้องเปลี่ยนให้ทัน ก่อนที่จะถูกวิกฤติกลืนกินไปอย่างหมดทางสู้ หลายๆคนได้มองเห็นโอกาสในวิกฤติเหล่านั้น คนเหล่านี้เขาไม่ใช่แค่อยู่รอดเท่านั้น แต่เขาจะเป็นคนที่ทะยานผงาดขึ้น ในขณะที่คนอื่นทำได้เพียงแค่ตะเกียกตะกายเพื่อเอาตัวรอด เราเลือกได้ว่าเราจะเป็นแบบใหน
ในตอนหน้า จะเล่าเรื่องกฏ 3 ข้อที่คุณต้องรู้ ถ้าอยากจะเปลี่ยนได้จริงๆ
ไม่ว่าจะมีเสียงในหัวเราอย่างไรก็ตาม วันนี้ผู้เขียนมีTrick ดีๆมาฝาก สำหรับผู้ที่กำลังลังเล หรือกำลังคิดอย่างจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง แต่ก็เจอแต่สภาพแวดล้อมเดิมๆ แล้วมันจะเปลี่ยนได้อย่างไร
CHOICE CHANCE CRISIS
3 เหตุผลที่จะทำให้คุณต้องเปลี่ยนแปลง
1. CHOICE คือการเปลี่ยนแปลงที่คุณเลือกที่จะทำ ถ้าคุณมีเป้าหมายที่ชัดเจน และคุณพบว่าหากคุณไม่เปลี่ยน คุณอาจไม่ได้สิ่งที่คุณต้องการ คุณจะเลือกหา
แม้ดูเหมือนจะเป็นการเปลี่ยนแปลงที่สมควรทำที่สุด แต่เชื่อมั๊ยมีคนจำนวนไม่มากนักที่จะเลือกเปลี่ยนแปลงเพราะเหตุผลนี้ สาเหตุหลักๆก็คือ พวกเขาเหล่านั้น รู้สึกอึดอัดถ้าหากจะต้องออกจากโซนปลอดภัย หรือที่เรียกกันทับศัพท์ว่า SAFE ZONE
SAFE ZONE ก็คือที่ที่อยู่แล้วสบาย หรือที่ๆเราคุ้นเคย สภาพเดิมๆ นั่นเอง มีคนน้อยคนนักที่กล้าที่จะออกจาก SAFE ZONE ซึ่งมันก็ทำให้พวกเขาเหล่านั้นมีชีวิตอยู่เหมือนกบต้ม ที่ยังรู้สึกสบายเมื่ออยู่ในหม้อน้ำที่วางบนเตาไฟ แม้ว่าน้ำจะเริ่มร้อนขึ้นกบก็ยังรู้สึกว่าอุ่นสบายดี ไม่ได้เฉลียวใจและตัดสินใจกระโดดก่อนที่น้ำจะเดือด หากใครเริ่มเห็นChoice แต่ไม่ยอมเลือก ระวังจะเป็นเหมือนกบตัวนั้น
2. CHANCE คือการเปลี่ยนแปลงที่คุณต้องรอคอย ไม่มีใครรู้ว่าโอกาสดีๆเหล่านั้นจะผ่านเข้ามาในชีวิตคุณอีกเมื่อไหร่ หากคุณไม่เปลี่ยนแปลงคุณจะไม่สามารถคว้าโอกาสนั้นให้กลายเป็นโอกาสของคุณได้ และมันก็จะลอยผ่านคุณไปเหมือนมันไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
คุณอาจเคยละทิ้งโอกาสดีๆไปแล้วหลายครั้ง ด้วยเหตุผลนานับประการมาแล้วใช่มั๊ย
หลายคนไม่กล้าคว้าโอกาสเพราะความกลัว เช่น กลัวว่าจะล้มเหลว กลัวทำได้ไม่ดีพอ กลัวคนอื่นตำหนิ อยากจะบอกว่าถ้าต้องใช้ความกลัวมาเป็นข้ออ้างสำหรับการเปลี่ยนแปลง ก็จงกลัวที่จะไม่ได้ทำ ซะยังจะดีกว่า
นายโทมัส เอดิสัน ผู้คิดค้นหลอดไฟเป็นคนแรกของโลก ได้กล่าวถ้อยคำที่สะท้านไปทั่วโลกคือ
" คนส่วนใหญ่ พลาดโอกาสดีๆในชีวิตไป เพราะเหตุว่าโอกาสดีๆส่วนมักปรากฏให้เห็นในรูปของงาน "
คนคิดกันว่าโอกาสดีๆจะเข้ามาแบบโรยด้วยกลีบกุหลาบ หอมหวนและเต็มไปด้วยคำชื่นชม และมองโอกาสที่แอบซ่อนมาในรูปของงาน ว่ามันคือภาระ มันคือปัญหา ที่ทำให้คุณต้องเหน็ดเหนื่อย ต่อสู้ เต็มไปด้วยแรงกดดัน แล้วคนเหล่านั้น ก็ได้ปล่อยให้โอกาสนั้นหลุดลอยไป
หลายคนเรียกร้องหาโอกาส และโทษชะตาว่าตนเองไม่เคยได้รับโอกาสดีๆอะไรเลย โดยหารู้ว่า ที่ผ่านมาหลายปี เขาเหล่านั้นได้ปฏิเสธโอกาสไปจนหมดสิ้นแล้วโดยไม่รู้ตัว และเมื่อเวลาผ่านไป อายุที่มากขึ้น โลกที่เปลี่ยนไป ประตูแห่งโอกาสในโลกของงาน ก็จะปิดประตูอย่างสมบูรณ์
3. CRISIS วิกฤติ คือเหตุผลสุดท้ายที่คุณไม่มีทางเลือก สถานะการณ์จะเป็นผู้เลือกว่าใครคือคนที่จะมีโอกาสรอด ผู้ที่ยอมเปลี่ยนแปลงเมื่อวิกฤติมาถึง พวกเขาจะไม่สามารถปรับตัวได้ และจำเป็นต้องออกจากวงจรไปอย่างไม่มีทางเลือก
การเปลี่ยนแปลงเมื่อวิกฤติคืบคลานเข้ามา คือการเปลี่ยนแปลงเพื่อการอยู่รอด คุณต้องเปลี่ยนให้ทัน ก่อนที่จะถูกวิกฤติกลืนกินไปอย่างหมดทางสู้ หลายๆคนได้มองเห็นโอกาสในวิกฤติเหล่านั้น คนเหล่านี้เขาไม่ใช่แค่อยู่รอดเท่านั้น แต่เขาจะเป็นคนที่ทะยานผงาดขึ้น ในขณะที่คนอื่นทำได้เพียงแค่ตะเกียกตะกายเพื่อเอาตัวรอด เราเลือกได้ว่าเราจะเป็นแบบใหน
ในตอนหน้า จะเล่าเรื่องกฏ 3 ข้อที่คุณต้องรู้ ถ้าอยากจะเปลี่ยนได้จริงๆ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น